รู้จักโครงสร้างระบบคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงสร้างระบบคอมพิวเตอร์
ความหมายของคำว่า “ โครงสร้าง” มาจากคำภาษาอังกฤษว่า “Stucture” ซึ่งมีความหมายตามพจนานุกรม New
Model English – Thai Dictionary ของ So
Sethaputra ว่า
-
โครงร่าง, โครง, แผน,
รูป, ร่าง
-
อาการ ( หรือวิธี) สร้างของสิ่งใด ๆ
-
ลักษณะ, ทำนอง
-
สิ่งที่สร้างขึ้น, ตึก, โรงเรียน
คำว่า Structure” จาก Computer
Dictionary ของ Microsoft Press Second Edition ให้ ความหมายไว้ว่า Structure : The design and
composition of a program, including program flow, hierarchy, and modularity;
also, a collection of data elements ซึ่งแปลว่า
การออกแบบและส่วนประกอบของโปรแกรม รวมถึงแผนภูมิไหลขอโปรแกรม (Program Flow
Chart), ลำดับขั้นตอนและส่วนประกอบ, และมีความหมายถึงการรวมกันของข้อมูลด้วยพจนานุกรม
“Modern American Dictionary” ให้ความหมายของคำว่า Structure ได้ดังนี้
- Mode
of Building of Arrangement of Parts.
- Something
Constructed.
- Complex
System
คำว่า โครงสร้างในภาษาไทย มาจากคำว่า โครง +
สร้าง
คำว่า โครง หมายถึง โครงร่าง, เค้าโครง
หรือโครงสำหรับใช้ในการสร้างสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น โครงที่ใช้ในการสร้างอาคาร,
โครงที่ใช้ในการสร้างโต๊ะ เก้าอี้, โครงกระดูกของคน
ของสัตว์, ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดเป็นรูปร่างขึ้นมา
หรืออีกความหมายหนึ่งจะหมายถึงชิ้นส่วนที่สำคัญที่ใช้เป็นโครสำหรับการสร้างสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้นมาก็ได้ส่วนคำว่า
สร้าง หมายถึง
การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งหรือกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้เป็นผลสำเร็จออกมาจากความหมายดังกล่าวข้างต้นพอจะกล่าวโดยสรุปได้ว่า
โครงสร้างคอมพิวเตอร์ คือ ส่วนประกอบที่สำคัญของคอมพิวเตอร์นั่นเอง
แต่อะไรคือส่วนประกอบสำคัญของคอมพิวเตอร์
โครงสร้างคอมพิวเตอร์มีความสำคัญต่อการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์อย่างไร
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่ถูกสร้างโดยองค์ประกอบสำคัญอย่างใดอย่างหนึ่งเสมอ
ในการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์
ถ้าเราได้ศึกษาถึงโครงสร้างของคอมพิวเตอร์โดยละเอียดแล้ว
จะทำให้เรารู้ถึงความสำคัญและความสัมพันธ์ของส่วนประกอบต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์
อย่างน้อยจะทำให้เรียนมีความสามารถดังนี้
-
ออกแบบสร้าง หรือบอกส่วนประกอบที่สำคัญของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องการใช้
หรือออกแบบเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เหมาะกับงานที่ต้องการได้
-
สามารถเลือกซื้อหรือเลือกใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ให้เหมาะกับงานได้
-
สามารถประกอบหรือปรับปรุง (Up Grade) เครื่องคอมพิวเตอร์ให้ทันสมัยหรือเหมาะกับการใช้งาน
-
สามารถบอกหรือซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ขัดข้องด้วยตัวเองได้
โครงสร้างคอมพิวเตอร์
คือส่วนประกอบใดของคอมพิวเตอร์
ส่วนประกอบสำคัญของเครื่องคอมพิวเตอร์ จะหมายถึงสิ่งสำคัญ 2 ประการด้วยกัน คือ
-
ชิ้นส่วน หรืออุปกรณ์ที่นำมาประกอบกันขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์
เช่น ซีพียู จอมอนิเตอร์ว่าจะต้องมีอะไรบ้าง
และแต่ละชิ้นนั้นมีหน้าที่ในการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างไร วงจรการทำงานของอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนนั้น ๆ เพราะการทำงานของชิ้นส่วนต่าง ๆ
หรือของอุปกรณ์ต่าง ๆ จะขึ้นอยู่กับวงจร ถ้าไม่มีวงจรอุปกรณ์นั้นจะทำงานไม่ได้
หรือถ้าวงจรของอุปกรณ์นั้นเกิดชำรุดเสียหาย
อุปกรณ์นั้นก็จะทำงานไม่ได้หรือทำงานผิดพลาดขึ้น
ความหมายของ เครื่องคอมพิวเตอร์
ระบบเครื่องคอมพิวเตอร์
และระบบการทำวานของเครื่องคอมพิวเตอร์
ความหมายของคำว่า “ คอมพิวเตอร์” “ ระบบเครื่องคอมพิวเตอร์” และ “ ระบบการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์” ดังนั้น
จะต้องทำความเข้าใจใน 3 เครื่องที่สำคัญนี้ก่อน คือ
-
คำว่า “ คอมพิวเตอร์” ภาษาอังกฤษ
เรียกว่า Computer ซึ่งมาจากคำว่าCompute แปลว่า “ คำนวณ” และคำว่า “Computer” ก็แปลว่า “ เครื่องคำนวณ” นั่นเอง
ทั้งนี้เพราะวัตถุประสงค์ของผู้สร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ในครั้งแรกก็เพื่อใช้ในการคำนวณ
หลักการสำคัญในการทำงานของคอมพิวเตอร์ จะเรียกว่า “ การโปรเซส
(Process)” ซึ่งเป็นวงจรที่มีหน้าที่สั่งการและควบคุมการทำงานของวงจรการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกวงจรให้ทำงานตามความต้องกมารของโปรแกรมที่ได้กำหนดไว้
ต่อมาได้มีการพัฒนาปรับปรุงวงจรโปรเซสเซอร์ ให้อยู่ในรูปของวงจรรวม ที่เรียกว่า
วงจรไอซี (IC : Integrated Circuit) หรือที่เรียกในปัจจุบันว่า
“ ซีพียู (CPU : Central Processing Unit)” ความหมายของ “ คอมพิวเตอร์” หรือเครื่องคอมพิวเตอร์
จะหมายถึงตัวProcessor หรือตัว CPU นั่นเอง ซึ่งจะไม่รวมอุปกรณ์เครื่องพ่วงอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
-
คำว่า “ ระบบเครื่องคอมพิวเตอร์” หมายถึง “ ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์” ประกอบกับอุปกรณ์ทำงานต่าง ๆ ของเครื่องที่เรียกว่า
เครื่องพ่วงหรืออุปกรณ์พ่วง (Peripheral)ต่าง ๆ ที่
ประกอบกันเข้าเป็นระบบเครื่องคอมพิวเตอร์ (Computer System) ดังนั้น คำว่าระบบเครื่องคอมพิวเตอร์ จึงหมายถึง
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วนคือ
-
อุปกรณ์เครื่องพ่วงที่ใช้เป็นอุปกรณ์นำข้อมูลเข้า ที่เรียกว่า Input
Unit เช่น คีย์บอร์ด เมาส์ สแกนเนอร์ เป็นต้น
-
ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือซีพียู ซึ่งมีหน้าที่สั่งการ
และควบคุมการทำงานของวงจรทางด้านนำข้อมูลเข้า (Input Devices) และอุปกรณ์นำข้อมูลออก (Output Devices)
-
อุปกรณ์เครื่องพ่วงที่ใช้เป็นอุปกรณ์นำข้อมูลออก ที่เรียกว่า Output
Unit เช่น Printer และจอมอนิเตอร์
เป็นต้น
รูปแสดงระบบคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์เครื่องพ่วงทุกชิ้นไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ทางด้านนำข้อมูลเข้า
หรือนำข้อมูลออก เป็นอุปกรณ์อิสระที่สามารถทำงานด้วยตัวของตัวเอง
และมีลักษณะเป็นชิ้นส่วนที่สามารถแยกหรือนำมาประกอบกันได้ เรียกว่า โมดูล (Module) ผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถที่จะนำชิ้นส่วนใด ๆ ตามที่ต้องการ
จึงเรียกระบบคอมพิวเตอร์ว่าเป็นระบบโมดูลา (Modular System) ทำให้ผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ได้รับประโยชน์อย่างน้อย ดังนี้
-
ผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถเลือกใช้อุปกรณ์อะไรเป็นอุปกรณ์นำข้อมูลเข้า
และนำข้อมูลออก ประกอบเป็นระบบเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ตามความต้องการที่เหมาะสมกับงานและเงินของตนเอง
-
เป็นการประหยัดเวลาในการสร้างหรือประกอบระบบเครื่องคอมพิวเตอร์
เพราะอุปกรณ์ทุกชิ้นเป็นโมดูล (Module)
-
เป็นการประหยัดเงิน
และค่าใช้จ่ายในการประกอบเป็นระบบเครื่องคอมพิวเตอร์
เพราะใช้แต่อุปกรณ์ที่จำเป็นในการทำงานเท่านั้น
-
เป็นการสะดวกและง่ายในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในกรณีอุปกรณ์ชำรุด หรือเสีย
หรือในกรณีที่ต้องการเพิ่มหรือลด (Upgrade) เช่น
การเพิ่มหน่วยความจำ การเพิ่มความจุของดิสก์ เป็นต้น
- ระบบการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ หมายถึง
หลักและวิธีการทำงานในระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งมีอยู่หลายวิธีการด้วยกัน
เมื่อกล่าวโดยสรุป วิธีการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์แบ่งออกได้เป็น 2 วิธีใหญ่ ๆ คือ
-
การทำงานในลักษณะของแบ็ตโปรเซสซิง (Batch Processing) ซึ่งอาจจะทำครั้งละหนึ่งงาน หรือครั้งละหลายงานพร้อมกันก็ได้ เรียกว่า การทำงานเป็นแบบมัลติโปรแกรมมิง (Multi Programming) วิธีนี้เป็นวิธีการที่รวบรวมงานทั้งหมดที่จะทำในครั้งเดียวกัน
เอามาทำพร้อมกัน โปรเซสพร้อมกัน และได้ผลของงานพร้อมกัน
-
การทำงานในลักษณะออนไลน์ (On-line Processing) เป็นการทำงานในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ที่ไม่จำเป็นต้องรวบรวมงานเพื่อทำเป็นกลุ่ม เช่น การฝาก – ถอนเงินจากเครื่องคอมพิวเตอร์ออนไลน์
(ATM) การอัพเดตบัญชีด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ของธนาคารโดยเจ้าของบัญชีเป็นผู้ทำงานเอง
การเลือกใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เหมาะกับงาน
เครื่องคอมพิวเตอร์ 4 ประเภทที่เหมาะกับการทำงาน
-
ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ (Supper Computer) เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง
และมีอัตราการทำงานสูง ส่วนมากจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับการทำงานชนิดพิเศษ
เช่น โรงงานอุตสาหกรรม เครือข่ายสายการบิน
-
เครื่องคอมพิวเตอร์เมนเฟรม (Main Frame Computer) เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่รองลงมาจากซุปเปอร์คอมพิวเตอร์
ส่วนมากจะใช้กับงานขนาดใหญ่ เช่น
เครื่องของสำนักงานสถิติแห่งชาติสำหรับการประมวลผลสำมะโนต่าง ๆ เป็นต้น
เครื่องแมนเฟรมยังแบ่งออกตามวัตถุประสงค์ได้เป็นอีก 4 ประเภทด้วยกัน
คือ
-
เครื่องสำหรับงานด้านวิทยาศาสตร์
แต่จะมีการประมวลผลหรือการคำนวณมากการทำงานของเครื่องจะหนักไปในการใช้ซีพียูมาก
ซึ่งเรียกว่า การทำงานแบบ CPU Bound
-
เครื่องสำหรับงานด้านธุรกิจ (Business Purposed Computer) เหมาะสำหรับการประมวลผลที่มีข้อมูลนำเข้า และข้อมูลนำออกเป็นจำนวนมากแต่ต้องการใช้ซีพียูน้อย
เช่น
-
งานทางด้านประมวลผลสถิติ หรืองานทางด้านธุรกิจการเงิน การบัญชี
และมักจะเรียกงานประเภทนี้ว่า เป็นงาน I/O Bound
-
เครื่อง คอมพิวเตอร์สำหรับงานเฉพาะกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง
เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สร้างขึ้นมาสำหรับการใช้งานอย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ
เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับงานแพทย์โดยเฉพาะ
-
เครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับงานทั่วไป
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาสำหรับใช้ได้กับงานทั่ว ๆ ไป
ส่วนมากจะเป้นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอุปกรณ์ทางด้านอินพุตและเอาท์พุตจำนวนมาก
มีหน่วยความจำค่อนข้างมากและมีซีพียูที่มีประสิทธิภาพสูง
-เครื่องมินิคอมพิวเตอร์ (Mini Computer) เป็นเครื่อง
คอมพิวเตอร์ชนิดเมนเฟรมแต่เป็นขนาดเล็ก เหมาะสำหรับการช่วยเครื่องเมนเฟรมทำงานต่าง
ๆ เช่น ใช้เป็นเครื่องรับ / ส่งข้อมูลในระบบออนไลน์ของเครื่องเมนเฟรม
เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์
หรือที่เรียกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC : Personal
Computer) เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กกว่าเครื่องเมนเฟรมและมินิคอมพิวเตอร์มาก
แต่มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง ซึ่งสามารถทำงานที่มีขนาดใหญ่ ๆ
แทนเครื่องเมนเฟรมได้
เป็นเครื่องที่มีความเร็วในการทำงานสูงแต่มีราคาถูกกว่าเครื่องเมนเฟรมมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น